ข้ามไปเนื้อหา

ประภาศรี สุฉันทบุตร

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ประภาศรี สุฉันทบุตร
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิด
ประภาศรี วิริยพันธ์

20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 (72 ปี)
จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประเทศไทย
เชื้อชาติไทย
คู่สมรสนายแพทย์หาญ สุฉันทบุตร (รับพระราชทานเครื่องราชตริตาภรณ์ช้างเผือก พ.ศ. 2526)

ประภาศรี สุฉันทบุตร[1] เป็นนักธุรกิจ (เกิด 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494) เป็นชาวเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางตอนใต้ของประเทศไทย อดีตสมาชิกวุฒิสภาไทย ชุดที่ 12 [ลิงก์เสีย][2]

ประวัติ

[แก้]

ประภาศรี สุฉันทบุตร ชื่อ-สกุลเดิม ประภาศรี วิริยพันธ์ ทำอาชีพ นักธุรกิจ เกิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 เป็นชาวเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทางตอนใต้ของประเทศไทย

ประภาศรี ได้สมรส กับ นายแพทย์หาญ สุฉันทบุตร มีอาชีพเป็น ศัลยแพทย์ มีบุตร-ธิดาด้วยกัน 4 คน คือ

  1. นายแพทย์ต้นกล้า สุฉันทบุตร อาชีพ ศัลยแพทย์ สมรสกับ นางณัทภัทร ศรีอนันตทรัพย์ มีธิดาด้วยกัน 2 คน
  2. นายแพทย์ฉายตะวัน สุฉันทบุตร อาชีพ แพทย์ประจำโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ สมรสกับ นางโชติกา โกไศยกานนท์ มีธิดาด้วยกัน 1 คน
  3. แพทย์หญิงกลางดาว สุฉันทบุตร จบการศึกษา แพทยศาสตร์บัณฑิต(เกียรตินิยม) แพทย์สาขาต่อต้านความชรา American Board of Anti-aging สมรสกับ นายแพทย์สุภเชษฐ์ ชีรณวนิช แพทย์ผู้เชี่ยวชาญศัลยกรรมกระดูก อนุสาขา เปลี่ยนข้อเข่า  ข้อสะโพก รับราชการแผนกศัลยกรรมกระดูกและข้อโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธาน มีบุตรชาย 1 คน ธิดา 1 คน
  4. นายก้องไกล สุฉันทบุตร (โสด) จบการศึกษา มัธยมปลาย จากโรงเรียน SAINT JOHN COLLEGE, HAMILTON, NEWZEALAND ระดับปริญญาตรีบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการ(Merit:ดี) จาก University of Leeds ,United Kingdom ระดับปริญญาโท สาขา Marketing Communication(Merit:ดี) จาก Westminster University, London.United Kingdom

การศึกษา

[แก้]
  • ม.ศ.3 โรงเรียนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี
  • ม.ศ.5 โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา พญาไท กทม.
  • ปริญญาตรีครุศาสตร์ บัณฑิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2516)
  • ปริญญาโทการศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร (2522) วิชาเอกการจัดการการศึกษาในระดับอุดมศึกษา(Higher Education)
  • วุฒิบัตรโครงการพัฒนา  นักธุรกิจชั้นนำส่วน ภูมิภาค สถาบันบัณฑิตพัฒนาบริหารศาสตร์และมูลนิธิเพื่อการจัดการแห่งประเทศไทย  ปี  2537 (NIDA – Imet)
  • วุฒิบัตรการบริหารงานสาธารณสุขและโรงพยาบาล จากคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐและเอกชน ว.ปรอ.4515
  • หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง สถาบันวิทยาการตลาดทุน(วตท.) รุ่นที่ 13

ประสบการณ์การทำงาน

[แก้]
  • สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติจังหวัดยโสธร ปี 2557[3]
  • ประธานหอการค้าจังหวัดยโสธร[4]
  • ประธานกรรมการสภาวิทยาลัยชุมชนจังหวัด  ยโสธร  [5] 
  • สมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  ชุดที่ 1[6]
  • กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี
  • กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสภามหาวิทยาลัยนครพนม
  • กรรมการหอการค้าไทย
  • ประธานกรรมการหอการค้าเขต 14 ภาคะวันออกเฉียงเหนือ (ยโสธร  อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ มุกดาหาร)  ปี 2542
  • รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร (ปี 2551-2554)
  • กรรมการสมาคมโรงพยาบาลเอกชนแห่งประเทศไทย
  • นายกสมาคมผู้นำสตรีพัฒนาชุมชนไทย สาขายโสธร  (ปี 2545 – 2551)
  • นายกสมาคมสตรี จ.ยโสธร[7]
  • กรรมการสมาคมสตรี อุดมศึกษาแห่งประเทศไทย
  • ได้รับการคัดเลือกเป็นตัวแทนจากสมาคมสตรีอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยเข้าร่วมประชุมสหพันธ์สตรีอุดมศึกษานานาชาติ The  International  Federation of  University  Woman  (IFUW) ปี2550 ที่ Manchester UK.[8]
  • ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรี จ.ยโสธร ( 2530-2555)
  • ผู้พิพากษาสมทบแห่งศาลจังหวัดอำนาจเจริญ  แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว (2536-2542)
  • กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยขอนแก่น (2539-2542)
  • กรรมการส่งเสริมกิจการมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี (2533-2542)

ธุรกิจส่วนตัว

[แก้]

ธุรกิจโรงพยาบาลเอกชน ประธานกรรมการบริหาร และเจ้าของโรงพยาบาลในกลุ่มโรงพยาบาลนายแพทย์หาญ ซึ่งเป็นกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนที่มีสถานะมั่นคงในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีส่วนแบ่งการตลาดในจังหวัดภาคอิสานตอนใต้ คือ ยโสธร อุบลราชธานี ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ ร้อยเอ็ด มุกดาหาร นครพนม รวมทั้งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สะหวันนะเขต) และราชอาณาจักรกัมพูชา

1. จังหวัดยโสธร สาขา 1 โรงพยาบาลนายแพทย์หาญ ยโสธร[9]

2. จังหวัดยโสธร สาขา 2 โรงพยาบาลรวมแพทย์ยโสธร[9] เป็นโรงพยาบาลรับส่งต่อ ในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศไทย สามารถรักษาได้ในโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

3. จังหวัดมุกดาหาร โรงพยาบาลมุกดาหารอินเตอร์เนชั่นแนล[10] เพื่อมหาชนลุ่มแม่น้ำโขง เป็นโรงพยาบาลเอกชน แห่งแรกและแห่งเดียวในจังหวัดมุกดาหาร เป็นโรงพยาบาลเอกชนระดับอินเตอร์เนชั่นแนลที่ให้บริการประชาชนจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และจังหวัดแถบลุ่มน้ำโขงของประเทศไทย คือ มุกดาหาร นครพนม สกลนครและอำนาจเจริญ รวมทั้งรองรับการดูแลให้กับประชาชนในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

4. Yasothon Ruampat International Clinic จังหวัดเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นคลินิกของคนไทยที่ดำเนินการในต่างประเทศ กำลังขออนุญาตเป็นโรงพยาบาลขนาดเล็กที่ Siem Reap, Cambodia.

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

[แก้]

รางวัล

[แก้]
ปีได้รับรางวัล รางวัล
พ.ศ. 2550 รางวัล ครุศาสตร์เกียรติยศจากคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย    
พ.ศ. 2551 รางวัล สตรีนักบริหารภาคเอกชนดีเด่น  จากกระทรวงแรงงาน เนื่องในวันสตรีสากล
พ.ศ. 2537 รางวัล สตรีที่มีผลงานเด่นจากสภาสตรีแห่งชาติ
พ.ศ. 2545 รางวัล ร้อยคนดี เกาะสมุย
พ.ศ. 2552 รางวัล สตรีที่มีผลงานดีเด่นของสภาสตรีแห่งชาติ ปี 2552

อ้างอิง

[แก้]
  1. https://www.facebook.com/SenatorPrapasriSuchantabutr/
  2. https://hris.parliament.go.th/ss_detail.php?ssp_id=7864&lang=th
  3. https://library2.parliament.go.th/giventake/content_nrcinf/nrc2557-profile.pdf[ลิงก์เสีย]
  4. https://www.insightpunam.com/747[ลิงก์เสีย]
  5. http://www.yasothonpoc.com/page.php?cat=9&newsID=43952
  6. https://www.ryt9.com/s/nesd/243278
  7. "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2022-06-24. สืบค้นเมื่อ 2020-03-06.
  8. http://oknation.nationtv.tv/blog/drhann/2008/02/17/entry-1/comment
  9. 9.0 9.1 "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-02-28. สืบค้นเมื่อ 2020-03-06.
  10. https://www.mukinter.com/th/
  11. ราชกิจจานุเบกษา, พระบรมราชโองการ ประกาศ เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสายสะพาย ประจำปี ๒๕๖๗, เล่ม ๑๔๑ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๕, ๑๓ สิงหาคม ๒๕๖๗
  12. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือกและเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ประจำปี ๒๕๖๓, เล่ม ๑๓๘ ตอนพิเศษ ๑ ข หน้า ๑๕, ๒๒ มกราคม ๒๕๖๔
  13. ราชกิจจานุเบกษา, ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๘, เล่ม ๑๓๒ ตอนที่ ๓๒ ข หน้า ๒๗, ๔ ธันวาคม ๒๕๕๘